สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้
ได้เรียนรู้จากการนำเสนอของเพื่อนๆ ดังนี้
1.อัตชีวประวัติ
(อังกฤษ: Autobiography)
มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกสามคำ: “autos”
แปลว่า
“ตนเอง” และคำว่า “βίος” หรือ “bios” แปลว่า “ชีวิต”
และคำว่า
“γράφειν” หรือ “graphein” แปลว่า “เขียน” เป็นเรื่องราวของบุคคลโดยเขียนขึ้นโดยบุคคลคนนั้นเอง
โดยเนื้อหา อาจเล่าถึงชีวิตส่วนตัวที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน หรือ
ไม่เคยถูกเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน ชีวประวัติที่เขียนโดยเจ้าของชีวิต
หรือในความหมายปัจจุบันหมายถึงประวัติที่ที่เขียนโดยเจ้าของชีวิตร่วมกับนักประพันธ์อาชีพในลักษณะบอกให้เขียน
คำว่า “อัตชีวประวัติ” ใช้เป็นครั้งแรกโดย โรเบิร์ต ซัทธีย์ (Robert Southey) ในปี ค.ศ. 1809ในวรสารแต่ลักษณะการเขียนแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
นักเขียนชีวประวัติมักจะเขียนประวัติจากเอกสารอ้างอิงต่างๆ
และจากความคิดเห็นของตนเอง แต่นักเขียนอัตชีวประวัติเขียนจากความทรงจำของตนเอง
ซึ่งใกล้เคียงกับบันทึกความทรงจำ (Memoir) ซึ่งบางครั้งแยกออกจากกันยาก
2.การเขียนวิจารณ์
การเขียนวิเคราะห์วิจารณ์ คือ
กระบวนการเขียนที่ผู้เขียนนำเสนอสารผ่านการพิจรณาแยะแยะข้อมูลแล้ววิเคราะห์ข้อดี
ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อย แล้วนำไปประเมินค่า เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงได้
หลักการเขียนวิเคราะห์วิจารณ์
การเขียนวิเคราะห์วิจารณ์มีหลักการดังนี้
๑) ศึกษาเรื่องอย่างละเอียดอย่างถ่องแท้
๒) วิเคราะห์แยกแยะเนื้อหาเป็นส่วนๆ ว่ามีลักษณะอย่างไร มีความสัมพันธ์กันหรือไม่
๓) วิเคราะห์เนื้อหาแล้วประเมินค่าว่ามีข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อย หรือข้อบกพร่องอย่างไร
๔) วิจารณ์ข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วไปประเมินค่าให้เห็นว่ามีคุณค่าหรือมีข้อบกพร่องอย่างไร
๕) วิจารณ์ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
๖) เรียบเรียงความคิดที่วิเคราะห์วิจารณ์เป็นบทพูด ใช้คำที่มีความหมายกระชับตรงประเด็น
๑) ศึกษาเรื่องอย่างละเอียดอย่างถ่องแท้
๒) วิเคราะห์แยกแยะเนื้อหาเป็นส่วนๆ ว่ามีลักษณะอย่างไร มีความสัมพันธ์กันหรือไม่
๓) วิเคราะห์เนื้อหาแล้วประเมินค่าว่ามีข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อย หรือข้อบกพร่องอย่างไร
๔) วิจารณ์ข้อมูลที่วิเคราะห์แล้วไปประเมินค่าให้เห็นว่ามีคุณค่าหรือมีข้อบกพร่องอย่างไร
๕) วิจารณ์ในทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
๖) เรียบเรียงความคิดที่วิเคราะห์วิจารณ์เป็นบทพูด ใช้คำที่มีความหมายกระชับตรงประเด็น
3.การเรียนเพื่อเล่าเรื่อง
การเขียนเล่าเรื่อง
การเขียนเล่าเรื่องอาจเป็นการเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวหรือเรื่องที่น่าสนใจ
การเขียนประเภทนี้ส่วนมากใช้บรรยายโวหารและมีอธิบายโวหารประกอบ
การเขียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงอาจไม่ต้องวางโครงเรื่องอย่างรัดกุมเช่นเดียวกับการเขียนประเภทอื่น
อาจกำหนดโครงเรื่องอย่างง่ายๆ
เริ่มต้นจากคำนำ หัวข้อเรื่องหรือลำดับเหตุการณ์ จนถึงบทสรุป
ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าจะเขียนอย่างไรจึงจะสามารถเล่าสิ่งที่ต้องการให้ได้ดีที่สุดเท่านั้น
จุดประสงค์ในการเขียน
๑.
เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลิน
๒.
เพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์และข้อคิดให้ผู้อื่นทราบ
๓.
เพื่อถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์
๔.
เพื่อเป็นคติสอนใจและเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
ลักษณะของการเล่าเรื่องที่ดี
๑.
มีการเริ่มเรื่องดี
๒.
มีรายละเอียดที่น่าสนใจ
๓.
ประกอบด้วยตัวละคร บุคคลหรือสิ่งที่น่าสนใจ
๔.
เป็นเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ไม่ใช่ปกติธรรมดา
๕.
มีจุดสุดยอดที่ตื่นเต้นเร้าใจ
๖.แทรกความขบขัน
๗.
ทำให้เกิดความเข้าใจใคร่ติดตาม
๘.
จบเรื่องเหมาะสม
วิธีการเขียนเล่าเรื่อง
๑. เตรียมเนื้อเรื่อง
๑.๑ เลือกเนื้อเรื่องหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจ
และประทับใจผู้เล่ามากที่สุด
๑.๒ เรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งอาจเริ่มตั้งแต่การนำเรื่องไปสู่เหตุการณ์ที่น่าประทับใจที่สุด
แล้วจบด้วยการสรุปเป็นข้อคิด
ข้อเตือนใจ
ข้อเสนอแนะหรือทิ้งให้คิด
๑.๓ พิจารณาเนื้อเรื่องที่จัดละดับให้มีความสั้นยาวพอเหมาะกัน
๑.๔ เลือกใช้สำนวนภาษาให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง
๒. กำหนดโครงเรื่องที่เตรียมไว้
โดยแยกเป็นส่วนคำนำ
เนื้อเรื่อง
สรุป
ความรู้ใหม่
ได้ความรู้ใหม่จากกิจกรรมที่เพื่อนๆนำมาเสนอหน้าชั้นเรียน ทั้งเนื้อหาและเกมส์
ข้อเสนอแนะ
ควรจัดสรรคเวลาในการนำเสนอให้ดูพอเหมาะกับความเนื้อหาและความสนใจของเพื่อนๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น