วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

เรียงความ เรื่อง ขอให้ประเทศไทยสงบสุข

เรียงความ
เรื่อง ขอให้ประเทศไทยสงลสุข
หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง ชีพด้วย
หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤา
เราก็เหมือนมอดด้วย หมดสิ้นสกุลไทย
ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับสภาวะวิกฤตในหลายๆ ด้านทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง สังคมหรือแม้กระทั่งการหลั่งไหลเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติ ปัญหาเหล่านี้กลายมาเป็นเสมือนเมฆหมอกปิดบังอนาคตที่สดใสของประเทศไทย หากแต่ข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่าท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด ยังมีแสงดาวนำทาง ดังนั้น ท่ามกลางวิกฤต ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ อนาคตของประเทศไทยที่ข้าพเจ้าฝันจะมีโอกาสได้เห็นนั้นก็คือ การที่ประเทศไทยสามารถเป็นไทจากวิกฤตการณ์เลวร้ายในหลายๆ ด้านที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
ข้าพเจ้าอยากให้คนไทย เป็น ไทยจากวิกฤตเศรษฐกิจ คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอยู่ดีกินดี ทำมาหากินด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการไม่ก่อหนี้ยืมสินใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สามารถสร้างงานสร้างอาชีพของตนเองให้พัฒนาก้าวไกลเป็นที่ยอมรับในระดับสากลให้ได้ในที่สุด
ข้าพเจ้าอยากให้คนไทย เป็น ไทจาก วัฒนธรรมต่างชาติ ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ ข้ามทวีปมาได้อย่างรวดเร็วทำให้คนทั่วโลกสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ในเวลาใกล้เคียงกันภายในไม่กี่วินาที เป็นผลให้อิทธิพลของวัฒนธรรมต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย เป็นเหตุให้วัฒนธรรมอันดีงามของไทยกำลังถูกกลืนหายเข้าไปกับวัฒนธรรมทั้งจากตะวันตกและตะวันออก แม้เราไม่สามารถห้ามกระแสวัฒนธรรมห้ามชาติเหล่านี้ได้ แต่เราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนในชาติไม่ให้หลงระเริงไปกับวัฒนธรรมจากต่างประเทศเหล่านี้ได้โดยการปลูกฝังค่านิยมกินของไทย ใช้ของไทย ให้กับคนในประเทศ ซึ่งต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกับเยาวชนที่จะเป็นกำลังของชาติต่อไปในอนาคตยิ่งต้องหมั่นปลูกฝังให้พวกเขาซาบซึ้งและภาคภูมิใจในความเป็นไทย นิยมชมชอบในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สั่งสมมานับร้อยปี อย่างเช่น นาฏศิลป์ ดนตรีไทย อาหารไทย การแต่งกายงดงามแบบไทย เป็นต้น เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถดำรงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้คงอยู่ได้ตราบนานเท่านาน ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมข้ามชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยอย่างไม่ขาดสายเช่นในปัจจุบัน
ข้าพเจ้าอยากให้คนไทย เป็น ไททางความคิด มีโอกาสได้รับความก้าวหน้าทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากข้าพเจ้าเชื่อว่าการศึกษาเป็นบ่อเกิดของปัญญา หากคนไทยสามารถได้รับการศึกษาในระดับสูงเป็นจำนวนมาก จะเป็นการเพิ่มบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถในแขนงวิชาต่างๆ ให้กับประเทศ ทำให้ประเทศไทยของเราสามารถพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว สามารถประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติ ทำให้ไม่ขาดดุลการค้ากับชาติอื่นอีกด้วย
และที่สำคัญประเทศไทย จะเป็น ไทไปไม่ได้เลยหากคนในชาติขาดความสามัคคี ดังคำกล่าวที่ว่า สามัคคี คือพลังนั้นไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย ประเทศไทยเปรียบเสมือนเรือลำใหญ่ คนในชาติย่อมเปรียบเสมือนคนที่อยู่ในเรือลำใหญ่นั้น หากเราช่วยกันพายเรือ เรือก็จะไปถึงฝังอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าไม่ช่วยกันพายซ้ำยังทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ไม่เพียงเรือจะไม่แล่นไปไหนแล้วเมื่อมีพายุโหมกระหน่ำเข้ามาก็ยากที่เรือลำใหญ่ที่บรรทุกคนไว้แน่นขนัดจะทานทนไหว สุดท้ายเรือคงล้มในที่สุด ข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่มีใครอยากเห็นประเทศไทยเป็นเช่นเรือลำนั้นที่ข้าพเจ้าได้กล่าวอุปมาเอาไว้อย่างแน่นอน ดังนั้นมาช่วยกันทำหน้าที่พลเมืองไทยอย่างเข้มแข็งและดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เพื่อชาติไทยของเรานับเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราสามารถประคับประคองและนำพาประเทศให้รอดพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้
ทุกวันนี้ข้าพเจ้าภูมิใจและดีใจที่เกิดมาเป็นคนไทย ได้ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอันอุดมสมบูรณ์มั่งคั่งด้วยทรัพยากรและมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังอบอุ่นใจอย่างยิ่งที่ได้เกิดมาอาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหากษัตริย์ผู้เลิศด้วยทศพิธราชธรรม เปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อเหล่าพสกนิกรของพระองค์ ไม่มีที่ใดในโลกน่าอยู่เท่าประเทศไทยของเรา

นางสาว เจนจิรา อร่ามศรี 55113400154 ตอนเรียน D1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น